สว.สงขลา ห่วงชุมชนไทยพุทธ ถูก กราดยิง 2 ครั้งในรอบ 7 วัน ขอ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยกระดับการ ดูแล เป็นพิเศษ

สว.สงขลา ห่วงชุมชนไทยพุทธ ถูก กราดยิง 2 ครั้งในรอบ 7 วัน ขอ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยกระดับการ ดูแล เป็นพิเศษ
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดสงขลา เปิดเผยถึง สถานการณ์การณ์ก่อการร้าย โดย กองกำลังติดอาวุธ ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน ที่ พุ่งเป้า ไปยัง ชุมชนไทยพุทธ ในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ว่า ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา ชุมชนไทยพุทธ ถูก”ซุ่มโจมตีด้วยการ กราดยิง ด้วยอาวุธปืนสงครามไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกที่บ้านฆอเลาะทูแว ต.แว้ง อ.แว้ง จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 7 ราย ครั้งที่ 2 ที่ สวนปาล์ม ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ในขณะที่ ชาวบ้าน อยู่ระหว่างการ ตัดปาล์ม ในสวนปาล์ม ซึ่งแม้ครั้งนี้จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ก็เชื่อว่าการ โจมตีชุมชนไทยพุทธ และคนไทยพุทธ ในพื้นที่ ชายขอบ คงจะไม่หยุดเพียง 2 เหตุการณ์ ต้องเกิดขึ้นอีก เพราะ บีอาร์เอ็น มี เป้าหมาย ทำร้ายคนไทยพุทธ เพื่อเป็นการ แก้แค้น ที่ “แกนนำ” ของ บีอาร์เอ็น ถูกยิงเสียชีวิตใน ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ เจ้าหน้าที่ ไม่มีความคืบหน้าในการคลี่คลายคดี และ บีอาร์เอ็น เชื่อว่า เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ
ดังนั้นจึงของให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เร่งยกระดับในการดูแล ชุมชนไทยพุทธ ในส่วนที่เป็นชุมชนเล็กๆ ในพื้นที่ชายขอบ ที่ยังอยู่อย่าง กระจัดกระจาย เพื่อป้องกันอย่างให้กลายเป็น เป้าหมาย ในการ ก่อเหตุ ของ แนวร่วม และ กองกำลังติดอาวุธของ บีอาร์เอ็น ในพื้นที่ โดยเฉพาะใน จ.นราธิวาส ที่มีการ ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น ชุมชนไทยพุทธบ้านวังหิน ที่อยู่ใกล้วัดเนรัญชราวาส ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา จำนวน 10 กว่าครอบครัว ที่เมื่อก่อนมี กำลังทหาร อยู่ดูแลชาวบ้านในหมู่บ้าน แต่ปัจจุบัน ทหาร มีการ ย้ายไปตั้งฐานในวัดเนรัญชราวาส ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งของ ชุมชนไทยพุทธ และ มีการ ลาดตระเวน” เพื่อ รักษาความปลอดภัย วันละ 30 นาที เท่านั้น ทำให้ ชุมชนแห่งนี้ ไม่มีความปลอดภัย และ เรียกร้องให้ ทหาร ลงมาอยู่กับประชาชนในหมู่บ้านเหมือนเดิม หรือไม่ก็ให้มีการความถี่ในการ ลาดตระเวน มากขึ้น ซึ่งได้มีการ ติดต่อประสานงานกับ หัวหน้าฐานปฏิบัติการ และ นายทหารระดับ ผบ.ฉก.แล้ว แต่ยังไม่มีการ ปรับเปลี่ยน อย่างนี้เป็นต้น
นายไชยยงค์ ยังกล่าวต่อไปว่า วันนี้ “ฐานปฏิบัติการ” ใน แต่ละพื้นที่ ทั้งที่เป็นของ”ทหารพราน” และที่เป็นของ”ฝ่ายปกครอง” เช่น”ชุดคุ้มครองตำบล” หรือ” ชคต.” ที่ตั้งฐานปฏิบัติการ ในพื้นที่ของ 3 จังหวัด ไม่ได้ให้ความคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะแต่ละ ฐานปฎิบัติการ ต่างต้อง คุ้มครองฐานของหน่วย อย่าให้ถูกโจมตี จาก”กองกำลังติดอาวุธ รวมทั้งต้องคุ้มครองตนเอง ในการลาดตระเวน อย่าให้ถูกวางระเบิดแสวงเครื่อง และซุ่มโจมตีด้วยอาวุธ รวมทั้งต้อง คุ้มครองตนเอง ในการ เดินทาง เดินทางกลับบ้าน ในการ ลาพัก และเดินทาง กลับฐาน ว่าทำอย่างไร ถึงจะไม่ถูก”ซุ่มโจมตี” ดังนั้น จึงไม่สามารถ ป้องกันเหตุ และ ป้องกัน ประชาชน ให้มีความปลอดภัย จึงขอให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า คำนึงถึงความเป็นจริง และปรับเปลี่ยน ยุทธวิธี ให้ สอดคล้อง กับ สภาพของความเป็นจริง เพื่อให้การ รักษาความปลอดภัย ให้กับ ชุมชนไทยพุทธ อย่าให้กลายเป็น เป้าในการโจมตี ของ”กองกำลังติดอาวุธ ที่เกิดขึ้นแล้ว 2 ครั้งในรอบ 7 วันที่ผ่านมา
ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่าให้จบลงที่การ นำพวงหรีดไปเคารพศพ การนำเงินไปเยียวยา ครอบครัวผู้สูญเสีย หรือมอบเหรียญบางระจันให้กับกำลังพลที่สูญเสีย และการขอโทษในความผิดพลาด เพราะสิ่งที่ ประชาชน ต้องการเห็นคือ หยุดการก่อความรุนแรง และหยุดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของ ประชาชน และ เจ้าหน้าที่รัฐ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสงขลา กล่าวฝากไปยัง รัฐบาล
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา