12/10/2024

ปราจีนบุรี-เก๋งหลุดโค้งเจ็บ 2 ราย พบ 1 ราย เป็นพระผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอยู่ในชุดฆราวาส (ชมคลิป)

ปราจีนบุรี-เก๋งหลุดโค้งเจ็บ 2 ราย พบ 1 ราย เป็นพระผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอยู่ในชุดฆราวาส

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=x3LSs8I5tG0[/embedyt]

เวลา 22.30 น. ของวันที่ 19 มกราคม 2565 ร.ต.อ.สราวุธ ศิลปสาย รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปรนจีนบุรี ว่าได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งนั่งส่วนบุคล เสียหลักหลุดโค้งลงข้างทาง บนถนนสาย 3079 ศรีมหาโพธิ มุ่งหน้า ปราจีนบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ยังติดค้างในยานพาหนะ และ 1 ใน 2 ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นพระสงฆ์ หลังจากรับแจ้งพร้อมกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

บริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้ง บ้านหาดยาง ม.2 ต.หาดยาง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี บริเวณริมถนน ฝั่งขาเข้าปราจีนบุรี พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโลร่า สีบร์อนเทา ทะเบียน กน 4923 ปราจีนบุรี เสียหลักชนราวเหล็กกั้นทาง ลงไปอยู่ในร่องข้างทาง สภาพด้านหน้าและด้านข้างฝั่งขวา พังยับเยินและยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย เป็นชาย เจ้าหน้าที่ช่วยออกจากรถได้1 คนเป็นคนขับ ทราบชื่อคือนายวิษณุ แซ่อึ้ง อายุ 54 ปี เป็นคนขับ อยู่ในอาการมึนเมา นอกจากนั้นภายในรถฝั่งผู้โดยสาร ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ยังไม่สามารถนำออกจากตัวรถได้ เนื่องจากรูปร่างอ้วน และประตูด้านผู้โดยสารไม่สามารถเปิดได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องหามออกประตูหลัง แต่ด้วยความที่ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนรูปร่างอ้วนใหญ่ การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความทุลักทุเล ในที่สุดสามารถช่วยเหลือนำส่ง รพ.ได้สำเร็จ

จากการสอบถามนายวิษณุ คนขับ ซึ่งอยู่ในอาการเมา ให้คำตอบเพียงแต่ว่ากลับมาจากศรีมหาโพธิ กำลังกลับบ้าน หลังจากนั้นก็ไม่ให้คำตอบ และข้อมูลที่ได้รับทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บรูปร่างอ้วนรายนี้เป็นพระสงฆ์ วัดดังในเมืองปราจีนบุรี มีตำแหน่งเป็นถึงผู้ช่วยเจ้าอาวาส แต่แปลกตรงที่ เป็นพระทำไมไม่สวมหรือห่มผ้าเหลือง แต่กลับแต่งตัวคล้ายฆราวาส ซึ่งจากการตรวจสอบพบภายในรถยนต์เก๋ง พบว่าบริเวณที่บริเวณด้านเบาะหลังมีจีวรพระถูกถอดกองไว้ และ ด้านกระโปรงหลังรถยังพบเครื่องสังฆทาน และใบประกาศนียบัตรเปล่า ที่มีตรากรมศาสนา อยู่เป็นจำนวนมาก และนอกจากนั้นยังพบเอกสารการฉีดวัคซีนโควิค 19 ระบุชื่อพระปริพัฒน์ เชื้อแพทย์ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 92/3 ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งทางกู้ภัยได้มีการโทรศัพท์ แจ้งไปทางวัด ซึ่งเป็นวัดหลวงปรีชากุล สอบถามทางเจ้าอาวาส ได้รับการยืนยันว่าใช่พระในวัดจริง

ต่อมาทางวัดได้ส่งพระสงฆ์ 2 รูปมาดูในที่เกิดเหตุ ซึ่งพระสงฆ์ทั้ง 2 รูปยืนยันว่าเป็นพระปริพัฒน์ จริง ซึ่งผู้สื่อข่าวถามว่าท่านเป็นพระจริงหรือ ทำไมแต่งตัวคล้ายฆารวาส ทำเอาพระสงฆ์ 2 รูปถึงกับงง ก่อนที่จะเอาภาพให้พระทั่ง 2 ดู ท่านยืนยันว่าเป็นพระปริพัฒน์ แต่ไม่ทราบว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ นอกจากนี้จากการสอบถาม พระสงฆ์ที่มาดูในที่เกิดเหตุ ถ้าเป็นกรณีแบบนี้นี้ เป็นพระสงฆ์ แล้วมาถอดชุดพระออก สวมใส่ชุดฆราวาสแทน ความผิดเป็นเช่นไร ถึงท่านบอกว่าสึกจากความเป็นพระอย่างเดียว ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระสงฆ์รูปนี้ที่มาเกิดอุบัติเหตุ ไปไหนมา ดื่มสุรามาหรือไม่ แต่ถ้าปฎิบัติตนแบบนี้ทางวัดต้นสังกัด หรือสำนักพุทธจะว่าอย่างไร และดำเนินการอย่างไร ศาสนาจะเป็นอย่างไรต่อไป

ซึ่งในวันนี้ (20 ม.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ วัดหลวงปรีชากูล ซึ่งเป็นวัดต้นสังกัด ของพระที่เกิดอุบัติเหตุ เบื้องต้นได้พบนายพิสูจน์ จันทพัฒน์ อายุ 69 ปี ประธานกรรมการและไวยยาวัชกรวัดหลวงปรีชากุล ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นพระที่ประสบอุบัติเหตุ คือพระปริพัฒน์ เชื้อแพทย์ อายุ 35 ปี เพิ่งจะได้แต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด หลวงปรีชากูลเมื่อประมาณ ปีที่แล้ว เนื่องจาก ท่านบวชเรียนมานานกว่า 10 พรรษา และเป็นพระที่เรียนเก่งมีความรู้ ซึ่งได้รับมอบหมายเป็นพระนักเทศน์ เป็นพระวิทยากร ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการพระสงฆ์ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี ด้วยความที่เป็นพระ ที่มีความรู้ จึงได้ไว้วางใจแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส

โดยตนไม่คาดคิดว่า ท่านประพฤติประพฤติตัวแบบนี้ ทำให้ คนในวัดและเหล่ากรรมการลูกศิษย์ลูกหา ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้น รถคันที่เกิดเหตุคันดังกล่าวนั้น ได้มีผู้ใจบุญมาถวายให้กับวัด ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าอาวาส แต่พระลูกวัดในวัดทั้งหมดสามารถใช้งานรถคันนี้ได้เช่นเดียวกัน โดยคนที่ขับรถพาไปนั้นเคยบวชอยู่ที่วัดนี้และสึกออกไปนานแล้ว โดยที่วันเกิดเหตุนั้น ไม่ทราบว่าพระออกไปเมื่อไหร่และออกไปทำไม แต่จากการประชุมหารือกับทางเจ้าอาวาสวัดและคณะกรรมการ ทำให้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าต้องทำการลาสิกขาพระรูปดังกล่าว หลังจากที่รักษาตัวจากโรงพยาบาลเสร็จสิ้น ส่วนในเรื่องของคดีความและความเสียหายของรถนั้น จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

/////////// ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี