ราชบุรี-คึกคัก แข่งเรือยาวโพหักชิงถ้วยพระราชทาน สืบสานวัฒนธรรมทางสายน้ำอายุร้อยปี


ราชบุรี-คึกคัก แข่งเรือยาวโพหักชิงถ้วยพระราชทาน สืบสานวัฒนธรรมทางสายน้ำอายุร้อยปีบรรยากาศริมสายน้ำโพหัก อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เต็มไปด้วยความคึกคักและเสียงเชียร์กึกก้อง ตลอดงานแข่งขัน เรือยาวประเพณีตำบลโพหัก ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประจำปี 2568 ซึ่งเทศบาลตำบลโพหักจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมและสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันทรงคุณค่า ที่ชาวโพหักยึดถือปฏิบัติกันมานานกว่า 100 ปี
วันที่ 12 ตุลาคม 2568 พิธีเปิดจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่บริเวณศาลาท่าน้ำเทศบาลโพหัก โดยมี นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคกล้าธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นางสาวปิยะฉัตร ไพชนม์ ปลัดจังหวัดราชบุรี, นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี, หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนจากหลายพื้นที่เข้าร่วมอย่างคึกคัก นายนิรันดร์ แสงนุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลโพหัก กล่าวว่า การแข่งขันเรือยาวประเพณีถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมทางสายน้ำที่สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตความสามัคคี และความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชน ซึ่งเทศบาลตำบลโพหักร่วมกับวัดใหญ่โพหัก ส่วนราชการ องค์กรภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมแรงร่วมใจจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและฟื้นฟูวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่ ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการแข่งขันเรือยาวประเภท ต่างๆจากทีมเรือชื่อดังในจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียง รวมกว่า 20 ทีม ที่ลงประชันฝีพายกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางเสียงเชียร์จากชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมจำนวนมาก
ไฮไลต์ของงานอยู่ที่ การแข่งขันเรือยาวคู่พิเศษ ระหว่างทีมของนายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 และนายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี พบกับทีมนายนิรันดร์ แสงนุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลโพหัก พร้อมด้วยกำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ สร้างสีสันและรอยยิ้มให้กับผู้ชมริมฝั่งน้ำ โดยผลการแข่งขันปรากฏว่าทีมของ ส.ส.ราชบุรี คว้าชัยไปอย่างสนุกท่ามกลางเสียงเชียร์กึกก้อง
สำหรับการแข่งขันเรือยาวประเพณีตำบลโพหักในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประจำถิ่นให้คงอยู่ ยังเป็นเวทีในการสร้างความรัก ความสามัคคี และความภาคภูมิใจให้กับคนในชุมชน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานมรดกทางสายน้ำให้คงอยู่คู่ตำบลโพหักและจังหวัดราชบุรีต่อไป