14/05/2025

บุรีรัมย์ มาแบบหัวเกรียนยื่นหนังสือขอบริจาคครั้งละหมื่นหนุ่มไหวตัวทัน

6255323_0

อำเภอกระสัง//ชายฉกรรจ์อ้างเป็นสำนักข่าว (ไม่มีใครรู้จัก)ตระเวนยื่นเอกสารขอบริจาคเงินสดแลกกับเหรียญที่ระลึก เจ้าของกิจการวัย 32 ปี สะดุดหลังได้ยินเสียงเข้มขอบริจาค 10,000 ไหวตัวไม่ขอบริจาคพร้อมแชร์วงจรปิดแจ้งเตือน มีคนเข้าไปคอมเม้นเป็นจำนวนมาก คาดโดนไปแล้วหลายราย

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.68 เฟสบุ๊คชื่อ”หมอขวัญ ทศพล จริตรัมย์” ได้โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิดบ้านตัวเอง เป็นคลิปภาพของชาย 2 คนรูปร่างสันทัดตัดผมสั้นเดินลงจากรถเข้าไปในบ้าน และเอกสารของสำนักข่าวชื่อหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่าฝากเตือน พี่น้องทุกท่านด้วยนะครับระมัดระวังด้วยครับ

ตรวจสอบพบว่าคนโพสต์คือนายทศพล จริตรัมย์ อายุ32ปี อยู่บ้านเลขที่313 บ้านน้อย หมู่ 2 ตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเจ้าของร้านร้านTA ทศพล อิเล็กทรอนิกส์

 

นายทศพล เล่าว่า เมื่อวานนี้(2 พ.ค.)ตอนนั้นตนทำงานอยู่ในร้าน ได้มีชาย 2 คนแต่ตัวดีเดินลงมาจากรถ บอกว่ามาจากสำนักข่าวอยู่ที่หน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ แล้วยื่นเอกสารให้ 2 ฉบับ ฉบับแรกเขียนหัวข้อว่า”หนังสือพิมพ์…..”เรื่องขอความอนุเคราะห์สนับสนุนเหรียญที่ระลึก”โครงการรวมน้ำใจเพื่อผู้ด้อยโอกาส”ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์

ในข้อความหนังสือระบุว่าเป็นวันครบวาระครบรอบ 35 ปี ของหนังสือพิมพ์…. เพื่อประชาชนได้จัดนำเหรียญที่ระลึกหลวงปู่ทวด,หลวงพ่อโสธร ,ท้าวเวสสุวรรณ เจ้าแห่งขุมทรัพย์และความร่ำรวย เป็นการบอกบุญต่อขอความอนุเคราะห์ในการสนับสนุนเพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ด้านการกุศล

ในหนังสือยังระบุด้วยว่าเงินที่ได้ไปเป็นกองทุนมอบเพื่อการศึกษาให้เด็กเรียนดีมีฐานะยากจนตามที่ร้องขอมา รวมถึงผู่พิการ มีฐานะยากจน มีความจำเป็นใช้รถวิลแชร์ รถสามล้อโยก และเตียงตามที่ถูกร้องขอและ”เพื่อเป็นกองทุนสำรองฉุกเฉินและสวัสดิการให้กับสมาชิก และการดำเนินงานของสำนักข่าวหนังสือพิมพ์….

นายทศพล กล่าวด้วยว่า เมื่อเห็นหนังสือตนก็พร้อมจะช่วยเหลือเตรียมไว้ 2,000 บาท แต่หนึ่งใน 2 คนที่ตัดผมเกรียนใช้วาจาคล้ายกระแทกให้ตนจ่าย 10,000 บาท ตนงงจึงไปอ่านหนังสือหน้า 2 พบว่าเป็นหนังสือยินยอมบริจาค ส่วนตัวคิดว่าน่าจะกันไม่ให้ผู้บริจาคหันมาเอาผิด

จากนั้นตนได้โทรศัพท์สอบถามเพื่อนที่ทำงานราชการว่ามีโครงการนี้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่มี”ระวังโดนต้ม”จึงยกเลิกการบริจาค แล้วเอาคลิปไปโพสต์แจ้งเตือนคนทั่วไป ปรากฏว่ามีคนคอมเม้นมาเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่บริจาครายละ 1,000-2,000 บาท และคาดว่าน่าจะไปตามหน่วยงานราชการ,อบต.,เทศบาลหลายแห่งแล้ว

 

นายทศพล กล่าวด้วยว่าจากนั้นตนได้สอบถามไปยังชมรมนักข่าวจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าหนังสื่อพิมพ์ฉบับที่ปรากฏในหนังสือ ไม่พบว่ามีการตีพิมพ์หรือวางจำหน่ายในจังหวัดบุรีรัมย์ และชมรมฯ ยังไม่เคยรับบริจาคแบบนี้มาก่อนจึงคิดว่าไม่ชอบมาพากล แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเขาเป็นมิจฉาชีพ เพราะหนังสือที่เขียนมารัดกุมและรอบคอบพอที่จะเอาผิดไม่ได้อยู่แล้ว/////////

ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง
ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ รางาน

 

ข่าวที่น่าติดตาม