ชุมพร – มทบ.44 รับ – ส่งทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1 รวม 564 นาย

วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 พลตรี สมคิด ชูเผือก ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 ให้เกียรติมาเป็นประธาน พิธีรับ – ส่งทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1 ประจำปี 2568 ร่วมกับรองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 44. ผู้บังคับหน่วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายอำนวยการ เจ้าหน้าที่ ฝ่ายกิจการพิเศษ ในวันนี้ ทหารกองเกินถูกเข้ากองประจำการ มีจำนวน 564 นาย ณ อาคารอเนกประสงค์ หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มทบ.44 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร

พันโท ชัยพร จันทร์รัศมี สัสดีมณฑลทหารบกที่ 44.รักษาราชการแทน หัวหน้าฝ่ายสรรพกำลัง มณฑลทหารบกที่ 44 กล่าว กองทัพภาคที่สี่ได้ออกคำสั่งตั้งแต่คณะกรรมการตรวจเลือดและคัดเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการประจำปีพุทธศักราช 2568 ให้มาทำการตรวจเลือดในเขตพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 44 โดยมีการตรวจเลือดตั้งแต่วันที่หนึ่งเมษาถึงวันที่ 10 เมษาพุทธศักราช 2568 ผลดำเนินการตรวจ เลือกมีทหารกองเกินที่ถูกกำหนดให้เข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการประจำปีพุทธศักราช 2568 ผลที่หนึ่งในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 นี้แบ่งเป็นสามแผนกคือแผนกทหารบกแผนกทหารเรือและแผนกทหารอากาศรวมจำนวน 215 นายและทหารกองเกินที่ผ่านการคัดเลือกโดยวิธีร้องขอกรณีพิเศษด้วยระบบออนไลน์ประจำปี 2568 ซึ่งมีการคัดเลือกในห้วงตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 26 มกราคม 2568 มีจำนวน 349 นายยอดทหารกองเกินที่ผ่านการตรวจเลือดและคัดเลือกถูกกำหนดให้เข้ากองประจำการรวมทั้งสิ้น 564 นาย ทหารกองเกินที่ถูกกำหนดให้เข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการแผนกทหารบกที่ผ่านการตรวจเลือดและผ่านการคัดเลือกจะรับราชการในเขตพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 44 จำนวน 430 นายทหารกองเกินที่ผ่านการตรวจเลือดส่งตัวไปรับราชการในเขตพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 43 จำนวนสาม 36 นาย ทหารกองเกินที่ถูกกำหนดให้เข้ารับราชการเป็นทหารประจำการแผนกทหารเรือภาคที่หนึ่งจำนวน 49 นายทหารกองเกินที่ถูกกำหนดให้เข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการแผนกทหารอากาศผลัดที่หนึ่งจำนวน 49 นาย

พลตรี สมคิด ชูเผือกเปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกลียดและยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในพิธีรับส่งทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการและขอต้อนรับทหารกองประจำการผลัดที่หนึ่งประจำปี 2568 ด้วยความยินดีการเข้าเป็นทหารกองประจำการถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความเสียสละตั้งใจอย่างแน่วแน่เป็นอย่างยิ่งเพื่อรับใช้ประเทศชาติ ขอให้น้องน้องจงมีความภาคภูมิใจในการเป็นทหารการปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างที่อยู่ในกองประจำการขอให้ตั้งใจฝึกศึกษาระบบระเบียบวินัยทหารเพื่อนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกนำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพส่วนตัวตามความต้องการของตนเองเมื่อครบกำหนดปลดออกจากกองประจำการไปแล้วได้ด้วยเช่นกัน

น้องน้องเข้าใจในเรื่องสิทธิต่างๆของทหารกองประจำการจากสัสดีอำเภอหรือจะเป็นสัสดีจังหวัดที่ช่วยประชาสัมพันธ์ให้น้องน้องได้รับทราบว่าทหารเมื่อเข้ามาเป็นกองประจำการแล้วมีสิทธิอะไรบ้างสิทธิอย่างแรกก็คือการได้รับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงตามจำนวนที่ รัฐบาลกำหนดเป็นค่าแรงขั้นต่ำอย่างน้อยน้อยก็ประมาณ 11,000 บาทแล้วก็รวมกับเครื่องใช้อุปกรณ์ต่างๆที่ทหารรับราชการอยู่ก็มีสิทธิที่จะได้รับตามราชการกำหนดระหว่างที่รับราชการอยู่ทางหน่วยก็จะสนับสนุนให้มีการศึกษาระดับที่สูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นการศึกษาทางด้านนอกระบบ การศึกษาของกรมอาชีวศึกษาก็ยังมีการฝึกวิชาชีพเพิ่มเติมหลังจากฝึกเป็นทหารเพื่อนำไปประกอบวิชาชีพในโอกาสที่ปลดออกไปนอกจากนี้ทางหน่วยก็ยังส่งเสริมให้มีสิทธิ์เพิ่มมากขึ้นการสอบเป็นนักเรียนนายสิบโดยจะมีโควตาของกองทัพบกให้น้องน้องทหารกองประจำการเป็นนักเรียนนายสิบโดยคิดเฉลี่ย 80% ของการรับสมัครทั่วไป เพราะฉะนั้นการที่เป็น ทหารกองประจำการก็จะมีโอกาสมากขึ้นส่วนใหญ่แล้วน้องน้องที่สมัครเข้ามาก็หวังว่าที่จะได้เป็นนักเรียนนายสิในโอกาสต่อไปหากเป็นนักเรียนนายสิบที่เรียนดีก็จะมีโอกาสสอบเป็นนักเรียนนายร้อยซึ่งเป็นนายทหารหลักนายทหารสัญญาบัตรมีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพข้าราชการทหารน้องน้องที่สมัครมาในวันนี้แล้วก็เข้ามาในวันนี้ก็ถือว่าเป็นผู้ที่เสียสละ ต้องการที่จะมารับใช้ชาติส่วนกลางกังวลของผู้ปกครองก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะว่าทางหน่วยก็จะ ดูแลน้องน้องให้เหมือนกับน้องคนเล็กแล้วก็จะสามารถเปิดโอกาสให้ญาติเข้ามาเยี่ยมได้และสามารถที่จะใช้โทรศัพท์คุยกับครอบครัวได้และหากทหารท่านใดที่มีครอบครัวหรือมีลูกก็จะพาน้องน้องไปเยี่ยมทายาทคนใหม่ของน้องน้องได้ขอให้ผู้ปกครองไว้วางใจในการฝึกและดูแลของหน่วยทหารจะดูแลด้วยความปลอดภัย ครับ