ขอนแก่น-ตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น จับกุมนายฮ้อยปอ ยึดอาชีพขายวัวบังหน้า รับจ้างขนยาเสพติดจากเครือข่ายประเทศเพื่อนบ้าน

ขอนแก่น-ตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น จับกุมนายฮ้อยปอ ยึดอาชีพขายวัวบังหน้า รับจ้างขนยาเสพติดจากเครือข่ายประเทศเพื่อนบ้าน
17 ก.พ. 68 กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น (กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น) พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.สามารถ พิมพ์ดีด รอง ผกก.สส.ฯ และ พ.ต.ท.ธวัช โสภา สว.สส.ฯ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายปอ อายุ 34 ปี (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง) พร้อมของกลางรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ขท-8717 ขอนแก่น และยาบ้า 38,000 เม็ด หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดขอนแก่น จับกุมตัวได้ที่บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 2322 ต.คูคำ อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น
พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลัยว่าจะมีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบนำยาบ้าจำนวนมาก ตระเวนกระจายส่งจำหน่ายในพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดมหาสารคาม จึงเฝ้าติดตาม พร้อมหาข้อมูลการข่าวจนกระทั่งพบว่านายปอ ซึ่งมีอาชีพนายหน้าค้าโค-กระบือในพื้นที่ หรือนายฮ้อย ซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัย และถูกจำคุกในคดียาเสพติด เมื่อปี 2555 และเพิ่งจะพ้นโทษมาในปี 2557 จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรม จนกระทั่งสืบทราบแน่ชัดว่ากลุ่มขบวนการค้ายาบ้าจะส่งมอบยาบ้าในรูปแบบนักบิน คือขับผ่านและทิ้งของไว้ข้างทาง ริมถนนสายขอนแก่น-มหาสารคาม ช่วง อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น
จึงวางกำลังเฝ้าติดตามจนกระทั่งพบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวขับมาท่าทางต้องสงสัย จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น นายปอ ได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามและใช้เครื่องหยุดรถตามยุทธวิธี หรือ Stop Stick สกัดรถเอาไว้ได้ก่อนตรวจพบยาบ้า รวม 19 มัด นับรวม 38,000 เม็ดซุกซ่อน อยู่ในที่พักเท้าตรงเบาะที่นั่งผู้โดยสารข้างคนขับจึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวนที่ กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น ซึ่งผู้ต้องให้การรับสารภาพว่าเป็นนักบินชั้นใน ที่รับยาบ้ามาจากเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติอีกทอด ก่อนถูกจับกุมตะเวนส่งของล็อต สุดท้าย มาจาก อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น และที่ จ.มหาสารคาม
พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหารับงานมาแล้ว 5 ครั้ง และตั้งแต่ต้นปีส่งยาบ้าทั่วภาคอีสานตอนกลางมาแล้วกว่า 500 มัด หรือประมาณ 1 ล้านเม็ด โดยได้รับค่าจ้างมัดละ 1,000 บาท ซึ่งสาเหตุที่ทำซึ่งนอกจากการที่ผู้ต้องหาจะมีอาชีพนายหน้าค้าโค-กระบือแล้ว ยังคงมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และมีเครือข่ายผู้ต้องหาที่รู้จักกันในเรือนจำ และเมื่อหลังพ้นโทษจึงกลับมาร่วมขบวนการอีกครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวนขยายผล และยึดทรัพย์ตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงตั้งข้อกล่าวหาว่าจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมายก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ซำสูง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป