ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง พร้อมคณะร่วมประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 46 หารือกับรองประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง พร้อมคณะร่วมประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 46 หารือกับรองประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน ณ ศูนย์การประชุมเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย ได้เข้าร่วมประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 46 พร้อมด้วย นายธนกร ถาวรชินโชติ สมาชิกวุฒิสภา นางสาวสตีจิตร ไตรพิบูลย์สุข รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นางสาวกฤษณี มาศรีจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ นายพีรวีท์ จรัสสิริกุลชัย คณะทำงานทางการเมือง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สองพบปะหารือกับนางสุนทร ไซยะจักร รองประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และผู้แทนสมาชิกสภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ในการพบปะหารือในครั้งนี้ นายฉลาด ขามช่วง ได้กล่าวชื่นชมในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ ที่มีความผูกพันฉันมิตรมายาวนาน และมีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน เมื่อ พ.ศ. 2493 จวบจนถึงปัจจุบันที่จะครบรอบ 75 ปี ในปลายปีนี้
นอกจากนี้ทาง สปป.ลาว ยังได้ให้กำลังใจไทยในประเด็นสถานการณ์ชายแดนที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถหาทางออกที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรงต่อกัน เพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายและของภูมิภาค
สำหรับไทยและสปป. ลาว เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมายาวนาน มีความใกล้ชิดกันในหลายระดับ โดยเฉพาะในระดับประชาชนที่มีความสนิทสนมกันดั่งเครือญาติ ทั้งยังมีความร่วมมือกันในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ซึ่งฝ่ายสปป.ลาวได้มีแนวคิดในการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในภูมิภาคผ่านการทำวีซ่ารวมประเทศในอาเซียนเหมือนประเทศในยุโรป
ส่วนโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะส่งเสริมความร่วมมือในการขยายการเชื่อมโยงทางการคมนาคม เช่น การคมนาคมทางราง ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันในการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันให้ครอบคลุมทั้งภูมิภาคอาเซียน ผ่านการเขื่อมโยงเส้นทางรถไฟลาว-จีน และเชื่อมต่อมายังไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ด้านความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนร่วมกัน เช่น พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ด้านการประมง และด้านแรงงาน
ปัจจุบัน ไทยยังขาดแรงงานอยู่มาก โดยเฉพาะในกิจการประมง ยังมีความจำเป็นต้องอาศัยแรงงานจากลาว ส่วนฝ่ายลาวได้ฝากให้ช่วยดูแลด้านแรงงานอย่างเป็นธรรม เพื่อลดปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งไทยมีความพยายามที่จะผลักดันให้แรงงานถูกกฎหมาย โดยลดขั้นตอนการลงทะเบียนแรงงาน และพยายามตัดบุคคลตัวกลาง ที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงเกินจริงสำหรับแรงงานต่างชาติ นอกจากนี้ยังให้สวัสดิการแรงงานเทียบเท่าคนไทย โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน โดยทั้งสองรัฐสภาพร้อมที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความความสัมพันธ์และสร้างสรรค์ผลประโยชน์ระหว่างกันต่อไป
ภาพ/ข่าว ณพล บริบูรณ์, นภชนก เหมือนนามอญ รายงาน
