ขอนแก่น – KKU Carnival 2025 “สีฐาน นวธารา หิมาลายัน” โชว์สุดตระการตา ประชาชนร่วมงานเรือนแสน
ขอนแก่น – KKU Carnival 2025 “สีฐาน นวธารา หิมาลายัน” โชว์สุดตระการตา ประชาชนร่วมงานเรือนแสน
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผนึกภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรม KKU Carnival 2025 ภายใต้แนวคิด “สีฐาน นวธารา หิมาลายัน” ในงาน “สีฐานเฟสติวัล นานาชาติ บุญสมมาบูชานาค” (Sithan International Festival 2025) โดยมี รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นกล่าวเปิดงาน และได้รับเกียรติจาก Mr. Sonam Palden ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน ประจำประเทศไทย (Second Secretary Royal Bhutanese Embassy Bangkok) คุณโซนัม ปาลเดน เลขานุการโท สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน ประจำประเทศไทยร่วมงาน พร้อมด้วย รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ อาจารย์ณัฐสมล ธนกุลรังสฤษดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและสื่อสารองค์กร ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ภาคีเครือข่าย นักศึกษานานาชาติ และชุมชนรอบรั้วร่วมงาน ณ บริเวณถนนสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นของเรามีกิจกรรมดี ๆ แบบนี้อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงคุณค่าและมูลค่าที่เกิดจากทุนทางวัฒนธรรม ผ่านความคิด ความเชื่อ และวิถีวัฒนธรรมของคนอีสาน ในแนวคิดหลัก สีฐาน นวธารา หิมาลายัน
“ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ผมรู้สึกได้ถึงความตั้งใจของคณะดำเนินงาน และการผสานความร่วมมือระหว่างเครือข่ายมหาวิทยาลัยขอนแก่น ชุมชน ศิลปิน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันให้เกิดเป็นกิจกรรมรูปแบบขบวนแห่ KKU Carnival 2025 ในงานสีฐานเฟสติวัลให้มีความหลากหลายและได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า กิจกรรม KKU Carnival 2025 เป็นหนึ่งกิจกรรมหลักในงานสีฐานเฟสติวัล “บุญสมมา บูชานาค” ที่จัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์ประเพณีลอยกระทง การขอขมาและบูชาน้ำ ภายในพิธีเปิดตระการตาด้วยชุดการแสดง “มังคลานาคา ธาราหิมาลายัน” พร้อมด้วยขบวนถวายความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ขณะเดียวกัน ยังมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมและศิลปะหลากหลาย ทั้งการลอยกระทงในบึงสีฐาน ขบวนนำเสนอแห่งความยิ่งใหญ่ งดงาม และเพื่อเป็นการพัฒนาทุนทางวัฒนธรรม สร้างความคิดริเริ่มสร้างสรรค์จากวัฒนธรรมดั้งเดิม และสร้างแรงจูงใจในการนำเสนอวัฒนธรรมร่วมสมัยผ่านขบวนแห่ Carnival เพื่อนำเสนอความเชื่อเกี่ยวกับนวธารา หิมาลายัน มีความหมายลึกซึ้ง โดย ‘สีฐาน’ คือพื้นที่แห่งศรัทธาและความศักดิ์สิทธิ์ของพญานาค ‘นวธารา’ หมายถึงสายน้ำใหม่ที่สื่อถึงการต่อยอดองค์ความรู้ และ ‘หิมาลายัน’ เปรียบดังขุนเขาแห่งต้นน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิต เน้นขบวนแห่ที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่อย่างร่วมสมัย
สำหรับบรรยากาศในค่ำคืนที่ผ่านมามีประชาชนเดินทางเข้าร่วมงานกว่า 90,000 ชีวิต เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลสุดยิ่งใหญ่แห่งปี และร่วมชมขบวน KKU Carnival 2025 ซึ่งประกอบด้วย ขบวนถวายความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขบวน “KKU Dance Troupe เริงระบำอีสานร่วมสมัย” แห่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผีบักหวด ขบวนแห่ คณะหมอลำใจเกินร้อย ขบวนแห่ ผู้เข้าประกวด “MISS KKU ANGEL 2025” (นางฟ้ามอดินแดง) ขบวนแห่ผู้เข้าร่วมเทศกาลหน้ากากและหุ่นนานาชาติ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 ขบวนแห่หน้ากากนานาชาติ ผลงานนักศึกษาปีที่ 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ขบวนแห่หุ่นพญานาค 20 ตัว ขบวนแห่หุ่นเซียงยืนพร้อมคณะกลองยาว ขบวนแห่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ขบวนแห่จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประกอบด้วย วิทยาลัยนานาชาติ คณะศึกษาศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ โดยทุกขบวนเสนอแนวคิด สีฐาน นวธารา หิมาลายัน ผลปรากฏว่า วิทยาลัยนานาชาติ เป็นผู้ชนะเลิศขบวนแห่ KKU Carnival 2025
นายภราดร ชะรอยรัมย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาศิลปะการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงความรู้สึกการได้เข้าร่วมขบวนว่า รู้สึกดีใจที่เยาวชนเห็นคุณค่า ตระหนักรู้และอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย อย่างประเพณีลอยกระทง และคาร์นิวัลขนาดใหญ่นอกจากจะกระตุ้นมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ยังเพิ่มคุณค่าวัฒนธรรมที่ได้เผยแพร่สู่สายตาชาวโลก อย่างเช่น เริงระบำอีสานร่วมสมัย รวมไปถึงขบวนนานาชาติ ชาวเวียดนาม ชาวลาว ที่ร่วมแสดงวัฒนธรรมประจำชาติ แสดงให้เห็นว่างานสีฐานเฟสติวัลนานาชาติเป็นสะพานเชื่อมต่อวัฒนธรรมไหลผ่านดังสายน้ำดังธีมงานปีนี้ นวธารา หิมาลายัน
สำหรับกิจกรรม งานสีฐานเฟสติวัล “บุญสมมา บูชานาค” (Sithan International Festival 2025) ณ บริเวณถนนสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดต่อเนื่องระหว่างวันที่ 3 – 5 พฤศจิกายน 2568 โดยมีกิจกรรมสร้างสรรค์มากมาย พร้อมเปิดประตูรั้วมอดินแดงให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมกว่าแสนคน โดยวันนี้ ( 5 พฤศจิกายน 2568 ) เป็นคืนสุดท้าย.
