ผบ.ตร. ชื่นชม สืบนครบาล 8 ขยายผลจับกุมยาไอซ์ 50 กิโล ใช้ชุมชนวัดเป็นแหล่งซุกซ่อนและจำหน่าย

ผบ.ตร. ชื่นชม สืบนครบาล 8 ขยายผลจับกุมยาไอซ์ 50 กิโล ใช้ชุมชนวัดเป็นแหล่งซุกซ่อนและจำหน่าย

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ทลายเครือข่ายยาเสพติด สร้างชุมชนสีขาวที่ยั่งยืน จึงสั่งการให้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการระดมกวาดล้างยาเสพติด พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.น.8 พ.ต.อ.ดุสิต วาลีประโคน รอง ผบก.บก.น.8 ทะลายเครือข่ายยาเสพติดที่ใช้ชุมชนเป็นแหล่งจำหน่ายและซุกซ่อน ซึ่งถือว่าเป็นภัยต่อชุมชนและสังคม

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.68 เวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 นำโดย พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.8 พร้อมด้วยชุดสืบสวน ได้เปิดปฏิบัติการล่าผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ย่านคลองสาน
สืบเนื่องเนื่องมาจาก ชุดสืบสวน บก.น.8 ขยายผลกลุ่มผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จนทราบว่าต้นทางยาเสพติด มีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ที่ลักลอบกระจายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งซุกซ่อนยาเสพติดจำนวนมากไว้ในรถยนต์ ภายในชุมชนวัดเศวตฉัตรวรวิหาร แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร แล้วจึงจัดจำหน่ายให้ผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่

ชุดปฏิบัติการจึงได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาจัดทีมเฝ้าติดตามเพื่อพิสูจน์ทราบกลุ่มผู้ต้องสงสัยรวมถึงรถยนต์ในบริเวณบริเวณดังกล่าว จนพบ รถ จยย. ที่ใช้จัดส่งยาเสพติดให้กับลูกค้าในชุมชน รถยนต์ที่คาดว่าใช้ซุกซ่อนยาเสพติด และชายต้องสงสัย 2 ราย จึงได้สืบสวนติดตามพฤติกรรมเรื่อยมา
ต่อมาวันที่ 28 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 20.20น. ชุดสืบสวนนครบาล 8 ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรม ของผู้ใช้รถยนต์คันดังกล่าว จนกระทั่งพบของนายเพชรตรากรณ์ฯ อายุ 36 ปี ขับรถยนต์เข้ามาที่เกิดเหตุ จึงเชื่อได้ว่าอาจมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ คันดังกล่าว จึงได้วางแผนการตรวจค้น จนกระทั่งพบเห็นนายเพชรตรากรณ์ ขับรถเข้ามา โดยมีนายกรธวัชฯ อายุ 54 ปี มาเปิดรถยนต์จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรียกเพื่อทำการตรวจค้น

ผลการตรวจค้นรถยนต์ พบยาไอซ์ จำนวน 50 ถุง น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม และตรวจยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน เป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” และควบคุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางกลับไปยังกองกำกับการสืบสวนนครบาล 8 เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม

หลังจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว ในข้อหา สมคบฯ ฟอกเงิน และประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามมาตรการตรวจยึดทรัพย์ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. กล่าวว่า การปราบปรามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ในครั้งนี้ ผบ.ตร. ได้กำชับให้ปฏิบัติการอย่างเร่งด่วน และทันที เนื่องจาก กลุ่มผู้ต้องหาใช้พื้นที่ในชุมชนหลังวัด ซึ่งถือว่าเป็นภัยต่อชุมชนและเยาวชน ที่เป็นอนาคตของชาติโดยตรง และจะสั่งการให้สืบสวนขยายผลทลายเครือข่ายถึงต้นตอให้ถึงที่สุด
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ขอประชาสัมพันธ์ประชาชน หากพบเห็นหรือมีเบาะแสการขายยาเสพติดในพื้นที่ชุมชน หรือบริเวณใกล้เคียงที่พักของท่าน สามารถแจ้งเบาะแสดังกล่าวผ่านช่องทางสายด่วน 191 หรือ สถานีตำรวจในพื้นที่ของท่าน
