พังงา-เริ่มแล้ว!!จนท.เปิดปฎิบัติการกวาดล้างนอมินีต่างชาติประกอบธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท เกาะคอเขาตรวจสอบพบกระทำความผิดเบื้องต้น 2 แห่งเร่งดำเนินคดีเด็ดขาด

พังงา-เริ่มแล้ว!!จนท.เปิดปฎิบัติการกวาดล้างนอมินีต่างชาติประกอบธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท เกาะคอเขาตรวจสอบพบกระทำความผิดเบื้องต้น 2 แห่งเร่งดำเนินคดีเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน นายไพรรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา สั่งการให้นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ร่วมกับพล.ต.ต.ชัยเกียรติ วิริยะสถิตย์กุล ผบก.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.สุจิล นิลบดี รอง ผบก.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.จิระวัตน์ สาระรัมย์ ผู้กำกับ สภ.ตะกั่วป่า นายพิชญพัทธ์ เรืองชาตรี นายอำเภอตะกั่วป่า นายปณิธาน แก้วหมุน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอตะกั่วป่า บูรณาการ ร่วมตม.จว.พังงา ตำรวจสืบสวน จังหวัดพังงา ตำรวจท่องเที่ยว ฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา ฝ่ายปกครอง อ.ตะกั่วป่า พาณิชย์จังหวัด กรมแรงงาน สรรพากร เปิดปฎิบัติการตรวจสอบธุรกิจคนต่างชาติ โรงแรม รีสอร์ทหรูชาวต่างชาติที่ประกอบธุรกิจไม่ถูกต้อง และ นอมินี ที่เป็นคนไทย ต่างด้าวทำงานผิดกฎหมาย ในพื้นที่ตำบลเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา โดย ชุดบูรณาการลงพื้นที่เป็น 2 ทีม โดยทีมแรกเข้าตรวจสอบ โรงแรม หรูแห่งหนึ่ง ร.ต.อ.อนุสรณ์ ชุมเปีย ร้อยเวร สภ.ตะกั่วป่า เป็นผู้นำอ่านหมายศาล เข้าตรวจค้นโดยมีนางสาวจุฑาภรณ์ ฯ ผู้จัดการโรงแรม เป็นผู้ออกมามารับหมาย ขณะที่ทีมที่ 2 เข้าตรวจสอบ โรงแรม โรงแรม หรูแห่งที่2 ซึ่งเป็นโรงแรมที่เข้าข่ายลามกอนาจาร แขกที่เข้าพัก ขณะทำกิจกรรมต่างๆจะมีการเปลือยกาย ทั้งหมด จากการเข้าตรวจสอบลูกค้าของโรงแรมยังมียอดจองห้องพักไม่มากนัก

ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในลักษณะจัดตั้งนอมินี ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุในลักษณะกลุ่มแก๊งหรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด ตรวจสอบคนต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อสร้างความมั่นใจและส่งเสริมความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย และไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ที่สร้างภาพลักษณ์ด้านลบให้กับแหล่งท่องเที่ยว

จากการตรวจสอบทั้ง 2 โรงแรม สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาเป็นคนไทย 2 คน และรัสเซีย 1 คน จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต , เป็นบุคคลต่างด้าวร่วมกันประกอบธุรกิจ (โรงแรม) ที่คนไทยไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคนต่างด้าว ตามที่กำหนดไว้ในบัญชีสาม แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ นำตัวส่ง สภ.ตะกั่วป่าดำเนินคดีตามกฎหมาย
นับเป็นปฎิบัติการเชิงรุกตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในจังหวัดพังงา โดยก่อนหน้าในหลายจังหวัดก็ได้เปิดปฎิบัติการต่างชาติใช้คนไทยเป็นนอมินีกระทำการประกอบอาชีพผิดกฏหมายหลากหลายอย่างอาทิการถือครองทรัพย์สิน ที่ดิน ธุรกิจให้เช่า ธุรกิจที่พัก โรงแรม ท่องเที่ยว การเกษตร ฯลฯ และคนไทยเป็นนอมินีให้ต่างชาติเข้าข่ายพฤติกรรมอำพรางผิดกฎหมายประเทศไทย
…………………….