กมธ.ทหารฯ จัดเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “จุดยืนของไทยในบริบทนิติสงครามภายใต้การเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลก”
กมธ.ทหารฯ จัดเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “จุดยืนของไทยในบริบทนิติสงครามภายใต้การเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลก”
วันที่ 24 กันยายน 2568 เวลา 12.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสัมมนา B1-1 ชั้น 1 อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา จัดเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “จุดยืนของไทยในบริบทนิติสงครามภายใต้การเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลก” โดยมี พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานกล่าวเปิด นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล เลขานุการคณะกรรมาธิการฯ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย สมาชิกวุฒิสภา คณะกรรมาธิการฯ คณะอนุกรรมาธิการฯ ผู้ปฏิบัติงานให้แก่สมาชิกวุฒิสภา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักวิชาการ และสื่อมวลชน เข้าร่วม 
พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ได้จัดการเสวนาทางวิชาการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 การเสวนาทางวิชาการที่จัดขึ้นแต่ละครั้งเป็นที่มาของการทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภาที่เข้มข้นและชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่อง การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ด้วยการพิจารณากลั่นกรองการทำงานของรัฐบาลเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และเหตุการณ์บ้านเมือง การเสวนาครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา จะเว้นการสู้รบ แต่ความขัดแย้งระหว่างไทย – กัมพูชายังคงอยู่ เหตุการณ์ที่นำไปสู่การปะทะครั้งใหม่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ เกมส์นิติสงครามของฝ่ายกัมพูชา การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย ปัญหาเขตแดนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ การแทรกแซงของชาติมหาอำนาจ ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ทุกเรื่องล้วนส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสร้างความตึงเครียดให้แก่พื้นที่ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ทั้งสิ้น ดังนั้น แนวทางการกำหนดจุดยืนของประเทศไทย ในสถานการณ์นิติสงครามภายใต้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลก ที่ท่านผู้ทรงคุณวุฒิจะได้เสวนากันในวันนี้ จึงเป็นความคาดหวังของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งหากผลที่ได้รับสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีจะแถลงต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า ก็จะเป็นการยืนยันความเหมาะสมของนโยบายรัฐบาล แต่หากผลที่ได้รับไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล คณะกรรมาธิการฯ จะได้ทบทวนผลการเสวนาทางวิชาการครั้งนี้และนโยบายรัฐบาล เพื่อจัดทำข้อพิจารณาเสนอรัฐบาลโดยเร็ว
.
สำหรับการเสวนาทางวิชาการในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลเอก เจิดวุธ คราประยูร อดีตรองผู้ช่วยทูตทหาร/ที่ปรึกษาทางทหารประจำคณะผู้แทนถาวรไทย สหประชาชาติ (นิวยอร์ค) อดีตรองผู้บัญชาการสถานบันวิชาการป้องกันประเทศ และอดีตผู้บัญชาการวิทยาลัยเสนาธิการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย – จีน สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และหม่อมหลวง ณัฏฐกรณ์ เทวกุล พิธีกร นักวิเคราะห์ข่าวการเมือง และผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสนอแนวทางในการกำหนดจุดยืนและนโยบายของไทย ในการรับมือกับนิติสงครามอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับผลประโยชน์แห่งชาติ โดยเชื่อมโยงบทบาทของไทยกับสมดุลอำนาจในภูมิภาคกับการใช้หลัก
กฎหมายอย่างเหมาะสม เพื่อวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์และประมาณการแนวโน้มของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้การเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลก ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาคที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยของไทย ทั้งนี้ ยังสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด “นิติสงคราม” (Lawfare) และบทบาทของกฎหมายในฐานะเครื่องมือในการต่อสู้เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างรัฐ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายความมั่นคงผู้แทนภาครัฐ และภาคส่วนที่บวงเกี่ยวข้อง ในการประเมินภัยคุกคามจากนิติสงครามที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทย นอกจากนี้ ยังสร้างความตื่นตัวและตระหนักรู้ในหมู่ผู้กำหนดนโยบาย หน่วยงานภาครัฐ และสาธารณชน ต่อการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์ในบริบทความมั่นคงและการต่างประเทศ และเพื่อเสนอแนวทางเชิงนโยบายด้านความมั่นคง ด้านการทหาร และด้านการทูตเชิงป้องปรามในโลกยุคใหม่ต่อไป
