25/09/2025

“Warroom IAC” หารือร่วมป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เกี่ยวเนื่องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับนานาประเทศ เดินหน้าแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

S__11706741

“Warroom IAC” หารือร่วมป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เกี่ยวเนื่องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับนานาประเทศ เดินหน้าแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

 

 

วันนี้ (23 กันยายน 2568) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ/ผู้บัญชาการศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) หรือ International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center (Warroom IAC) มอบหมายให้ พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุมหารือด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เกี่ยวเนื่องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการของหน่วยบังคับใช้กฎหมายจากต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่จากองค์กรระหว่างประเทศ ณ โรงแรมมัลดีฟส์ บีช รีสอร์ท อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

 

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเพื่อหารือแนวทางการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจาก 7 ประเทศ และ 4 องค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, องค์กรชั้นนำอย่างสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC), องค์การตำรวจสากล (INTERPOL), สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) และหน่วยสืบราชการลับสหรัฐ (Secret Service) ในการร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและวิธีปฏิบัติ เพื่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ภายในการประชุมมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์และมาตรการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่กำลังแพร่หลาย โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนอย่างจังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศกัมพูชาเป็นระยะทางกว่า 87 กิโลเมตร และมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นจุดเชื่อมโยงของขบวนการค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เนื่องจากฝั่งตรงข้ามมีอาคารและคาสิโนที่เชื่อว่าเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มอาชญากร

 

ในอดีตที่ผ่านมา มีรายงานการหลอกลวงคนไทยจำนวนมากไปบังคับทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือเหยื่อกลับประเทศ ขณะที่ข้อมูลจากระบบรับแจ้งความออนไลน์เผยให้เห็นว่า เฉพาะในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเพียงแห่งเดียว มีคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีกว่า 5,898 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 412 ล้านบาท โดยการประชุมครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อรับมือกับอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต

ข่าวที่น่าติดตาม